หลังจากสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล 1 เมษายนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงขึ้นทำให้สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยกังวลว่าหากราคาน้ำปรับขึ้นอีก จะกระทบต้นทุน จนรับไม่ไหวต้องตัดสินใจขึ้นค่าขนส่งพร้อมหารือสมาชิกเตรียมยื่นเรื่องถึงรัฐบาลขอความชัดเจนถึงแนวทางแก้ปัญหาราคาดีเซลขณะเดียวกันต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้ประกอบการขนส่งที่รับภาระไม่ไหวหยุดวิ่งรถไปแล้วกว่า 300,000 คัน
นายศุภศักดิ์ รุ่งเจิดฟ้า ที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและ ประธานที่ปรึกษาสมาคมขนส่งทางบกแห่ง ประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ราคาปรับขึ้นมา 50 สตางค์ ต่อลิตร ทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น 1.5% ถือว่ายังพอรับได้ แต่สิ่งที่กังวลคือ แนวโน้มของราคาน้ำมันดีเซลในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ อาจจะปรับสูงขึ้นถึง 2 บาทต่อลิตร จะทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นถึง 6% ภาคขนส่งคงแบกรับต้นทุนไว้ไม่ไหว สุดท้ายต้อง ตัดสินใจขึ้นราคาค่าขนส่ง
นายศุภศักดิ์ ระบุว่า หลังสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล รัฐบาลก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าท้ายที่สุดแล้วราคาน้ำมัน จะปรับขึ้นเท่าไหร่ หรือจะมีมาตรการช่วยเหลือออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ สหพันธ์ขนส่งฯ เตรียมหารือกับสมาชิกเพื่อยื่นเรื่องไปยังรัฐบาลให้ช่วยแก้ปัญหาราคาพลังงาน เพราะไม่อยากให้ภาระตกไปอยู่กับประชาชนผู้บริโภค
นายศุภศักดิ์ ระบุด้วยว่าผิดหวังกับรัฐบาลชุดนี้เพราะที่ผ่านมาคาดหวังว่าจะมีมาตรการที่ทำให้เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศดีขึ้นกว่านี้ แต่เศรษฐกิจกลับซึมยาวต่อเนื่อง ที่ผ่านมาภาคขนส่งไม่ได้มีปัญหาถ้าจะมีการขึ้นราคาน้ำมัน และไม่ต้องการให้รัฐบาลมาช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนส่ง แต่อยากให้หาทางทำให้เศรษฐประเทศดีขึ้น เพราะถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น ภาคธุรกิจมีกำลังซื้อ ต่อให้ราคาน้ำมันจะปรับสูง ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการก็ยังจ่ายไหวคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายศุภศักดิ์ ยังบอกด้วยว่าสภาพเศรษฐกิจที่แย่ลง ประกอบต้นทุนพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ตอนนี้รถของผู้ประกอบการขนส่ง หยุดวิ่งไปแล้ว 30 – 40% หรือ ประมาณ 300,000 คัน จากรถในระบบที่มีกว่า 1 ล้านคันหากราคาน้ำมันดีเซลยังปรับสูงขึ้นอีกหลังสงกรานต์นี้ อาจมีรถขนส่งที่ต้องหยุดวิ่งเพิ่ม เพราะไม่คุ้มกับต้นทุน และจะกระทบไปยังธุรกิจอื่นที่ต้องอาศัยภาคการขนส่งคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง